ซีบัคธอร์น ผลไม้อเนกประสงค์ หลากหลายสรรพคุณกับ ราชาเบอร์รี่

หนึ่งในสารสกัดที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้น ซีบัคธอร์น อาจจะเรียกได้ว่าเป็นสารสกัดจากราชาเบอร์รี่ก็ว่าได้ โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในการนำ ซีบัคธอร์น มาเป็นส่วนผสมได้แก่ผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลเรื่องของการบำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบผสม ผงซีบัคธอร์น ในผลิตภัณฑ์ หรือ การสกัดเป็นน้ำมัน ซึ่งผลไม้ชนิดนี้มีสรรพคุณที่มีความหลากหลาย เรียกได้ว่ามีความอเนกประสงค์ในการหยิบไปใช้งาน วันนี้เราจะขอนำเสนอข้อมูลแบบเจาะลึกว่า ซีบัคธอร์นสรรพคุณอย่างไร และ ทำไมถึงได้กลายเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในปัจจุบัน

ซีบัคธอร์นคืออะไร

จริงๆแล้ว ซีบัคธอร์น เป็นพืชในตระกูลเบอร์รี่ที่มีสารอาหารอยู่จำนวนมาก จนถูกเรียกขานว่าเป็น “ราชาแห่งเบอร์รี่” ในสมัยกรีกโบราณได้มีการนำ ผลและใบของซีบัคธอร์นมาใช้ในการบำรุงม้าเพื่อให้มีความแข็งแรง จึงได้ชื่อว่า “ฮิปโปฟาเอ” ที่แปลว่า ม้าที่มีขนสวยงดงาม ซึ่งชื่อวิทยาศาสตร์ของผลไม้ชนิดนี้ก็คือ Hippophae Rhamnoides โดยลักษณะของต้นนั้นจะมีลักษณะเป็นพุ่ม เป็นพืชที่สามารถพบได้บริเวณที่ราบสูงและเขตหนาว สามารถอยู่ในสภาพอากาศที่แห้งแล้งและทนดินเปรี้ยวได้ดี สามารถพบได้ในพื้นที่หนาวเย็น โดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาตั้งแต่ยุโรปจนถึงเอเชีย ในปัจจุบันได้ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างแพร่หลาย

ซีบัคธอร์น สารสกัดน้องใหม่มาแรง ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

ด้วยคุณสมบัติต่างๆโดยเฉพาะการทีมีวิตามินซีสูงทำให้ถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยเฉพาะด้านผิวพรรณด้วยสารสกัดที่อุดมไปด้วย Omega7 ซึ่งช่วยฟื้นฟูผิว ช่วยลดคอเรสเตอรรอล รวมถึงยังมีคุณสมบัติในการต้านริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น พร้อมให้ความชุ่มชื้นและช่วยชะลอวัยได้เป็นอย่างดี

6 สารสกัดสำคัญจากซีบัคธอร์น

หลากหลายคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ จาก ซีบัคธอร์น

ซีบัคธอร์น มหัศจรรย์ของเบอร์รี่ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ

จะเรียกว่าเป็น “ราชาแห่งเบอร์รี่” ก็คงไม่ผิดนักสำหรับ ซีบัคธอร์น ที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารสำคัญจากธรรมชาติที่ร่างกายต้องการอยู่อย่างครบถ้วน ทั้ง วิตามินซี ไฟโคปีน โอเมก้า7 ฟลาโวนอย ฟีนอล และ เบต้าแคโรทีนเป็นต้น นอกจากนั้นยังสามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย  ลดการอักเสบ บำรุงผิวพรรณ รวมถึง การบรรเทาอาการวัยทองได้อีกด้วย และด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจึงถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปัจจุบัน