เคยคิดว่าพออายุเยอะ PMS จะหาย ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย

older-pms-in-fact

หลายคนอาจเคยมีความเชื่อว่าพอเข้าสู่วัยผู้ใหญ่หรือใกล้หมดประจำเดือน อาการก่อนมีประจำเดือนหรือ PMS จะค่อยๆ หายไปโดยธรรมชาติ แต่ในความเป็นจริง อาการเหล่านี้ไม่ได้จางหายไปหมดเสมอไป บางคนยังคงประสบกับอาการที่ส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตประจำวันและอารมณ์อย่างต่อเนื่อง

ทำความรู้จัก PMS

PMS หรือ Premenstrual Syndrome คือ กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือนประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยมีอาการหลากหลายทั้งทางกายและทางจิตใจ อาการทั่วไปที่พบบ่อย ได้แก่ อารมณ์แปรปรวน เช่น หงุดหงิด ซึมเศร้า วิตกกังวล ปวดท้องน้อย บวม เกร็งกล้ามเนื้อ หรือคัดเต้านม

สาเหตุหลักของ PMS เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่มีผลต่อสารสื่อประสาทในสมอง เช่น เซโรโทนิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์และความรู้สึก ทำให้บางคนมีอาการทางอารมณ์ที่ชัดเจนมากในช่วงก่อนมีประจำเดือน

ถึงแม้ว่าอาการ PMS จะพบได้ในผู้หญิงแทบทุกวัยที่มีรอบเดือน แต่ความรุนแรงและลักษณะอาการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่นทางพันธุกรรม พฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมถึงสุขภาพจิตและร่างกายโดยรวม การเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ PMS จึงเป็นก้าวแรกสำคัญที่จะช่วยให้ผู้หญิงสามารถจัดการกับอาการเหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น

PMS กับอายุที่เพิ่มขึ้น

หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเมื่ออายุมากขึ้นหรือใกล้หมดประจำเดือน อาการ PMS จะลดลงหรือหายไปเอง แต่ในความเป็นจริงสำหรับผู้หญิงหลายคน อาการเหล่านี้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือแม้กระทั่งรุนแรงขึ้นในบางครั้ง สาเหตุหลักมาจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายระหว่างช่วงก่อนหมดประจำเดือน (Perimenopause) ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนมีความไม่สมดุล และขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างมากกว่าปกติ

pms_กับอายุที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่ออาการ PMS ในวัยผู้ใหญ่ ได้แก่ ความเครียดสะสมจากภาระงานและชีวิตประจำวัน การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือปัญหาสุขภาพทั่วไปที่มักพบในวัยนี้ เช่น ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคเรื้อรังต่าง ๆ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนและการทำงานของสมอง

ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงในวัย 35-50 ปีขึ้นไปหลายคนจึงยังคงเผชิญกับอาการ PMS ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทั้งในด้านอารมณ์ ความรู้สึกทางกาย และความสัมพันธ์ส่วนตัว การเข้าใจว่าทำไมอาการเหล่านี้ยังอยู่และเปลี่ยนแปลงไปตามวัย จึงช่วยให้เราสามารถเตรียมตัวและดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น

ผลกระทบของ PMS ในวัยผู้ใหญ่

แม้ว่าอาการ PMS จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ในวัยผู้ใหญ่หรือช่วงก่อนหมดประจำเดือน อาการเหล่านี้อาจส่งผลกระทบที่ลึกซึ้งและซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะกับสุขภาพจิตและการใช้ชีวิตประจำวัน

ในด้านสุขภาพจิต อาการ PMS สามารถทำให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือหงุดหงิดง่าย ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เช่น คู่รัก เพื่อนร่วมงาน หรือครอบครัวมีความตึงเครียดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถลดสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้การจัดการกับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบต่าง ๆ เป็นไปอย่างยากลำบาก

ทางด้านร่างกาย ผลกระทบของ PMS อาจรวมถึงอาการบวม ปวดหัว หรือความอ่อนเพลีย ซึ่งทำให้ผู้หญิงรู้สึกไม่สบายตัวและส่งผลต่อการเคลื่อนไหวหรือการออกกำลังกาย ประกอบกับความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยผู้ใหญ่ ยังทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น ภาวะพร่องเอสโตรเจน ที่ไม่เพียงกระทบต่อ PMS เท่านั้น แต่ยังสัมพันธ์กับอาการวัยทองอื่น ๆ เช่น ร้อนวูบวาบและนอนไม่หลับ

แนวทางการดูแลและบรรเทาอาการ PMS

แม้ว่าอาการ PMS ในวัยผู้ใหญ่อาจยังคงอยู่ แต่มีวิธีดูแลและบรรเทาอาการที่ช่วยให้คุณสามารถรับมือและลดผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดูแลอาการ PMS

หนึ่งในแนวทางสำคัญคือการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เริ่มจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารช่วยให้อารมณ์ดี นอกจากนี้ การจัดการความเครียดด้วยเทคนิคต่าง ๆ เช่น การทำสมาธิ หรือการฝึกหายใจลึก ยังช่วยบรรเทาอาการทางอารมณ์ได้อย่างชัดเจน

โภชนบำบัดก็มีบทบาทสำคัญ โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง คาเฟอีน และอาหารแปรรูป ซึ่งมักกระตุ้นให้อาการ PMS รุนแรงขึ้น แนะนำให้รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม โพแทสเซียม และวิตามินบี เช่น ผักใบเขียว ถั่ว และธัญพืช รวมถึงเพิ่มการบริโภคน้ำเพียงพอเพื่อช่วยลดอาการบวมน้ำ

นอกจากนี้ สมุนไพรและอาหารเสริมที่มีสาร ไฟโตเอสโตรเจน จากพืช เช่น ถั่วเหลือง หรือตรีผลา สามารถช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและบรรเทาอาการได้โดยไม่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมนสังเคราะห์ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ เพื่อความปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพร่างกาย

สรุปและเชิญชวน

การมีอาการ PMS ในวัยผู้ใหญ่หรือช่วงก่อนหมดประจำเดือนไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และไม่ควรถูกมองข้าม เพราะอาการเหล่านี้ส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งอาจทำให้คุณภาพชีวิตลดลงได้ การเข้าใจธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยนี้ พร้อมกับการปรับพฤติกรรมและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับอาการ PMS ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่าลังเลที่จะขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เมื่ออาการเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะความช่วยเหลือและแนวทางรักษาที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณฟื้นฟูสุขภาพและกลับมามีความสุขในทุกช่วงวัย

หากคุณเคยประสบหรือกำลังเผชิญกับอาการ PMS ในวัยผู้ใหญ่ อย่าลืมแบ่งปันประสบการณ์หรือคำถามที่คุณสนใจ เพื่อให้บทความนี้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้และแรงสนับสนุนสำหรับผู้หญิงทุกคนที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและยั่งยืนในระยะยาวค่ะ

btn_shopee
btn_line