ดื่มด่ำความอร่อยพร้อมบำรุงสายตาในทุกวันด้วยกาแฟผสมลูทีน

ด้วยวัยและปัจจัยในการใช้ชีวิตอาจจะทำให้ประสิทธิ์ภาพในการมองเห็นเสื่อมสภาพลง ลูทีน สารสำคัญที่ช่วยถนอมสายตาจากแสงสีฟ้าซึ่งเราพบเจอในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นจากโทรศัพท์มือถือ หรือ หน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งการที่เราได้รับแสงสีฟ้าอยู่เป็นประจำนั้นจะเป็นการไปกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระ โดยแสงสีฟ้าที่เราได้รับนั้นจะกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระได้มากกว่าแสงสีอื่นเป็น 100 เท่า ซึ่งหากได้รับแสงสีฟ้าอยู่เป็นประจำก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการผิดปรกติกับดวงตาเช่น ตาแห้ง, ตาพร่า, ระคายเคืองตา ไปจนถึงตาปรับโฟกัสช้า ซึ่ง ลูทีน นั้นเป็นตัวช่วยป้องกันการเกิดความผิดปรกติกับดวงตาด้วยการจัดการแสงสีฟ้านั่นเอง วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับลูทีนให้มากขึ้น

ลูทีนคืออะไร

ลูทีนเป็นสารประกอบประเภท แคโรทีนอย ที่คอยป้องกันอันตรายให้กับดวงตา โดยลูทีนจะทำหน้าที่ป้องกันและลดแสงสีฟ้าที่กระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระในดวงตา โดยอยู่ในจุดโฟกัสในดวงตาหรือที่เรียกว่า แมคูลา ลูเตีย จะประกอบไปด้วย ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) โดยเชื่อว่าสารประกอบทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถช่วยลดภาวะความเครียดและการออกซิเดชันก่อนที่แสงจะถึงจุดโฟกัสได้อย่างมีนัยสำคัญ 

ประโยชน์ของลูทีน

ลูทีนตามธรรมชาติ

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า ลูทีน นั้นจะสามารถพบได้ในพืช ผักและผลไม้ ซึ่งนอกจากจะได้รับวิตามินแล้วยังได้ลูทีนกลับมาอีกด้วย ซึ่งผักแต่ละชนิดมีลูทีนอยู่ในปริมาณที่ไม่เท่ากันเราขอยกตัวอย่างคร่าวๆดังนี้

• ผักคะน้าสุก มีปริมาณลูทีน 15.8 มิลลิกรัม/100 กรัม
• ผักปวยเล้งดิบ มีปริมาณลูทีน 11.9 มิลลิกรัม/100 กรัม
• ผักปวยเล้งสุก มีปริมาณลูทีน 7.1 มิลลิกรัม/100 กรัม
• ผักกาดแก้วดิบ มีปริมาณลูทีน 2.8 มิลลิกรัม/100 กรัม
• บร็อคโคลี่สุก มีปริมาณลูทีน 2.2 มิลลิกรัม/100 กรัม
• ข้าวโพดหวานสุก มีปริมาณลูทีน 1.8 มิลลิกรัม/100 กรัม
• ถั่วลันเตาสุก มีปริมาณลูทีน 1.4 มิลลิกรัม/100 กรัม
• แขนงกะหล่ำสุก มีปริมาณลูทีน 1.3 มิลลิกรัม/100 กรัม
• กะหล่ำปลีขาวดิบ มีปริมาณลูทีน 0.3 มิลลิกรัม/100 กรัม
• ไข่แดง มีปริมาณลูทีน 0.3 มิลลิกรัม/100 กรัม