อย่างที่หลายคนทราบกันดีกว่าเมื่อเข้าสู่วัยทอง หรือ วัยหมดประจำเดือน ซึ่งจะพบได้ในผู้หญิงอายุ 35-45 ปี โดยสิ่งที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเข้าสู่วัยทองแล้วนั่นก็คือการสังเกตอาการตัวเอง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นจากการที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนนั่นลดต่ำลง ทำให้การกระตุ้นการทำงานต่างของร่างกายนั่นมีความผิดปรกติไป ซึ่งนอกจากอาการที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนแล้ว ยังมีอาการแปลกๆ ที่เกิดขึ้นได้อีก วันนี้เรามาทำความเข้าใจ ทั้งอาการวัยทอง และ อาการแปลกๆที่สามารถเกิดขึ้นได้ไปพร้อมกัน
วัยทองหรือ menopause คือ
โดยอาการวัยทอง หรือ วัยหมดประจำเดือนนั้นโดยสาเหตุหลักแล้วเกิดจากการที่รังไข่หยุดทำงาน ทำให้ร่างกายลดการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนลงไปด้วย ซึ่งทำให้ร่างกายเกิดการขาดสมดุลของฮอร์โมน ซึ่งเราสามารถแบ่งระยะของวัยทองได้เป็น 3 ระยะดังต่อไปนี้
ผู้หญิงในวัยใกล้หมดประจำเดือนช่วงอายุ 35 ปี
กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นจากฮอร์โมนในร่างกายลดลง เป็นช่วงที่รังไข่เริ่มผลิตฮอร์ดมนผิดปรกติจนหยุดทำหน้าที่ในที่สุด ซึ่งสามารถพบเจออาการวัยทองได้ เช่น ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ รวมถึง อาการร้อนวูบวาบ และ ช่องคลอดแห้ง
ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนช่วงอายุ 40 ปี
อาการที่ชัดเจนที่สุดว่าเข้าสู่วัยทองอย่างเต็มตัวก็คือ การที่ร่างกายไม่มีประจำเดือนติดต่อกันอย่างน้อย 1 ปี สาเหตุมาจากการที่รังไข่หมดความสามารถในการเจริญพันธุ์และหยุดผลิตฮอร์โมน ซึ่งยังคงมีอาการวัยทองเหมือนช่วงใกล้หมดประจำเดือนได้ต่อไปอีก 4-5 ปี
ผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือนช่วงอายุ 45 ปี
เป็นวัยที่รังไข่ผลิตฮอร์โมนในระดับที่ต่ำมาก ทำให้ไม่มีการตกไข่อีก และเนื่องจากฮอร์โมนลดลงทำให้มีโอกาสเสี่ยง ในการเป็นโรคหัวใจและกระดูกเพิ่มมากขึ้น
อาการวัยทองในผู้หญิง
หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าวัยทองนั้นนอกจากจะเกิดขึ้นในผู้หญิงวัย 40-49 ปีขึ้นไปได้แล้วนั้น ยังสามารถเกิดกับผู้ชายได้ด้วย ซึ่งจะเกิดขึ้นช้ากว่านั้นก็คือช่วงอายุ 50-55 ปีได้อีกด้วย ซึ่งอาการวัยทองที่สามารถสังเกตและพบเจอได้บ่อยมีดังต่อไปนี้
ช่องคลอดแห้ง
อาการที่เห็นได้ชัดเจนจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนั่นก็คืออาการช่องคลอดแห้ง ซึ่งเป็นอาการที่กระทบการใช้ชีวิตประจำวันได้โดยมีหลายระดับ ตั้งแต่รู้สึกแห้งหรือการเสียดสี รวมถึงมีอาการแสบระหว่างมีเพศสัมพันธ์ จนถึงมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งเกิดมาจากการที่ร่างกายขาดสมดุลของฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ในการกระตุ้นการผลิตน้ำหล่อลื่นนั่นเอง
ร้อนวูบวาบ
เป็นอาการที่ค่อนข้างกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าเวลากลางวันและกลางคืน เนื่องจากการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลง จนทำให้ต่อมที่ทำการรับรู้เรื่องอุณหภูมิขอร่างกายนั่นผิดเพี้ยนไปจากปกติ นั่นเอง
หงุดหงิด เหวี่ยงวีน
เป็นอาการทางด้านจิตใจที่เกิดขึ้นเนื่องจากฮอร์โมนที่ลดลง ทำให้การสั่งการที่สมองผิดปรกติ โดยมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เหวี่ยงวีนและมีอารมณ์รุนแรง
8 อาการวัยทองแปลกๆ ที่พบเจอได้
กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
เนื่องจากการขาดเอสโตรเจนทำให้การควบคุมกระเพาะปัสสาวะนั้นทำได้ยากขึ้น เพราะเส้นเลือดบริเวณโดยรอบนั้นเกิดอาการฝ่อและผนังทางเดินปัสสาวะบางลง เวลาไอหรือจามแรงๆ อาจจะเกิดปัสสาวะเล็ดได้นั่นเอง
ผิวหนังบาง แห้ง ขาดความยืดหยุ่น
เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง พร้อมกันปริมาณของ คอลลาเจน ที่ลดลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ทำให้ดูแห้งกร้าน รวมถึง เกิดอาการคันได้
ภาวะกระดูกพรุน
ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการสร้างกระดูก เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนลงทำให้การสร้างกระดูกนั้นช้าลง จึงทำให้มีโอกาสกระดูกพรุนได้มากขึ้นนั่นเอง พบว่าในช่วง 5 ปีแรกหลังเข้าสู่วัยทอง มีโอกาสที่ร่างกายจะสูญเสียมวลกระดูกไปอย่างรวดเร็ว
อาการมึนหัว บ้านหมุนในวัยทอง
โดยสาเหตุที่แท้จริงแล้วไม่ได้เกี่ยวกับการขาดฮอร์โมนแต่เกิดจาก การเสื่อมโทรมของระบบไหลเวียนของเลือดทำให้เลือดไม่เลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้หน้ามืดได้
โรคหัวใจและหลอดเลือด
ผลของการขาดฮอร์โมนทำให้ ไขมันชนิด LDL นั้นเพิ่มขึ้นและเพิ่มโอกาสที่ไขมันจะไปเกาะตามหลอดเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ขัดขวางการไหลเวียนของเลือด ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดนั่นเอง
หลงลืมง่าย จนถึง โรคสมองเสื่อม
ฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกับการทำงานของสมองและสารสื่อประสาท เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงแน่นอนว่าทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองนั้นตอบสนองช้า หรือ ตอบสนองผิดปรกติได้ รวมถึงอาจจะมีอาการหลงๆ ลืมๆ ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของโรคสมองเสื่อมได้
ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ลดลง
เมื่อฮอร์โมนลดลงทำให้ประสิทธิภาพของระบบเผาผาญทำงานลดลงไปด้วย ทำให้มีโอกาสการสะสมของไขมันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น
นอนหลับยาก
อีกหนึ่งอาการที่สามารถพบเจอได้สำหรับผู้หญิงวัย 40 ที่เข้าสู่วัยทองนั่นก็คืออาการนอนหลับไม่สนิท ซึ่งเกิดจากความผิดปรกติของสารสื่อประสาทจากการขาดฮอร์โมนนั่นเอง
วิธีการดูตัวเองง่ายๆสำหรับผู้หญิงวัยทอง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นอาหารที่มีกากใย รวมถึงอาหารที่มีปริมาณแคลเซียมสูง ไขมันต่ำ เพื่อป้องกันอาการกระดูกพรุนและ หลีกเลี่ยงอาหารที่โปรตีนสูงเกินไป
- ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที เพื่อช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ อย่างเช่น เทนนิส เดินเร็ว วิ่ง แอโรบิค อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน
- ฝึกควบคุมจิตใจ อย่าปล่อยให้อารมณ์ขุ่นมัว การมองโลกในแง่บวก จึงเป็นยาบรรเทาความเครียดคลายควาวมเศร้าที่ดี หากิจกรรมที่ช่วยให้เกิดความสุขในใจอย่างเช่น การทำสวน วาดรูป หรือ อ่านหนังสือ เป็นต้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บรรเทาอาการวัยทองด้วยสารสกัดจากธรรมชาติใน Briina
ตัวช่วยสำหรับผู้หญิงวัยทอง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Briina ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วย “ไฟโตเอสโตรเจน” ที่มีคุณสมบัติคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายมนุษย์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย มีช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆ ช่วยบรรเทาอาการวัยทอง เช่น ช่องคลอดแห้ง ร้อนวูบวาบ อารมณ์เหวี่ยงวีน ด้วยสารสกัดจาก ซีบัคธอร์น เมล็ดลูกซัด ตังกุย และ ถั่วเหลือง